
ศ.ดร.สนิท แก้วอักษร นักวิชาการชาวไทยที่ศึกษาวิจัยป่าชายเลน ได้ให้นิยามความสำคัญของป่าชายเลนไว้มากมาย โดยเปรียบป่าชายเลนว่าเป็นเสมือน "บ้าน" ของพันธุ์สัตว์น้ำและพันธุ์พืชนานาชนิด ที่ใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์และเจริญเติบโต เป็นเสมือน "ครัว" ซึ่งได้ธาตุอาหารหล่อเลี้ยงชีวิตพืชและสัตว์จากเศษใบไม้ที่หลุดร่วงสลายเป็นอาหารในดิน เป็นเสมือน "โรงบำบัดน้ำเสีย" เนื่องจากรากและลำต้นของพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ เป็นด่านกรองสิ่งปฏิกูลในน้ำก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเล เป็นเสมือน "โรงยา" ด้วยพืชหลายชนิดมีสรรพคุณทางสมุนไพรบำบัดอาการของโรคต่างๆ ได้ดี เป็นเสมือน "ปอด" เนื่องจากสภาพธรรมชาติที่ร่มรื่น ช่วยให้อากาศบริเวณชายฝั่งทะเลสะอาด บริสุทธิ์ เป็นเสมือน "สะพาน" ที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ชายฝั่งและทะเล และที่สำคัญ คือ เป็นเสมือน "อู่ข้าวอู่น้ำ"ของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งได้ทำประมง และใช้ประโยชน์จาพืชนานาพันธุ์เพื่อการดำรงชีวิต ป่าชายเลนจึงเปรียบเสมือนลมหายใจของสิ่งมีชีวิตที่ต้องดำรงอยู่อย่างพึ่งพา อาศัยกันอย่างสมดุลตามธรรมชาติ แต่ในระยะหลายสิบปีที่ป่านมา สภาพป่าชายเลนตามแนวชายฝั่งด้านอ่าวไทยและด้านทะเลอันดามันถูกทำลายไปมาก ซึ่งหากปล่อยปละละเลยกันต่อไป อาจเกิดผลกระทบที่จะสร้างความเสียหายต่อสมดุลทางระบบนิเวศธรรมชาติมากเกิน กว่าจะแก้ไขได้ทัน และป่าชายเลนอาจกลายเป็นเพียงภาพในอดีตที่เคยปรากฏบนผืน แผ่นดินไทยเท่านั้น

ป่าชายเลนเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศชายฝั่งทะเล เป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์น้ำนานาชนิด ที่เอื้อประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ สังคมและเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น